รูปแบบห้องคอนโดแบบไหนที่โดนใจคุณ

เวลาที่เราดูรีวิวคอนโดหรือเยี่ยมชมโครงการต่าง ๆ เมื่อมีการพูดถึงแบบห้องเราอาจจะเคยสงสัยว่าห้องแบบนี้มันเป็นยังไงกันนะ บทความนี้จะพาเราไปรู้จักแบบห้องแบบต่าง ๆ ของคอนโดกัน

รูปแบบห้องของคอนโดแบบต่าง ๆ

สตูดิโอ - Studio

ลักษณะ

ห้องสตูดิโอ (Studio) คือ ห้องที่มีลักษณะเป็นห้องที่รวมฟังก์ชั่นทุกอย่างไว้ในห้องทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นห้องนั่งเล่น ห้องนอน หรือห้องครัว โดยไม่มีอะไรกั้น ยกเว้นส่วนของห้องน้ำและระเบียง ขนาดส่วนใหญ่อยู่ที่ประมาณ 20-30 ตร.ม.

จุดเด่น

เนื่องจากห้องสตูดิโอส่วนใหญ่จะมีขนาดที่เล็กที่สุดเมื่อเทียบกับแบบอื่นในโครงการจึงทำให้เราสามารถซื้อห้องที่ทำเลดีราคาต่อตารางเมตรสูงในราคาเอื้อมถึงได้ ประหยัดค่าส่วนกลาง แถมยังดูแลได้ง่ายอีกด้วย

จุดด้อย

การที่ห้องรวมฟังก์ชั่นทุกอย่างไว้ด้วยกันทำให้บางครั้งการมีแขกมาที่ห้องก็ทำให้เสียความเป็นส่วนตัวด้วย และการที่มีพื้นที่จำกัดก็ต้องเลือกของแต่งห้องอย่างระมัดระวังควรใช้งานได้หลากหลาย ไม่เช่นนั้นจะทำให้ดูอึดอัดได้

เหมาะกับใคร

เหมาะสำหรับผู้ที่มีงบประมาณไม่สูง แต่ต้องการทำเลที่ดีเดินทางสะดวก อาศัยอยู่คนเดียว ใช้เวลาอยู่ในห้องไม่เยอะ และไม่ค่อยทำครัวบ่อยนัก เพราะพื้นที่ค่อนข้างจำกัด

เหมาะกับการอยู่อาศัยชั่วคราวหรือการซื้อลงทุนปล่อยเช่า เพราะราคาต่ำทำให้สามารถตั้งราคาที่แข่งขันกันได้

1 ห้องนอน - 1 bedroom

ลักษณะ

เป็นห้องที่ได้รับความนิยมที่สุด เพราะมีการแบ่งสัดส่วนชัดเจนโดยเฉพาะห้องนอนกับห้องนั่งเล่น มีการกั้นห้องด้วยประตูหรือกระจกบานเลื่อน มีขนาดตั้งแต่ไม่เกิน 30 ตร.ม. ไปจนถึง มากกว่า 50 ตร.ม. ก็มีเช่นกัน

จุดเด่น

มีสัดส่วนที่ชัดเจน เวลารับแขกก็ยังสามารถรักษาความเป็นส่วนตัวได้

จุดด้อย

หากห้องขนาดพอ ๆ กับสตูดิโอจะทำให้ดูอึดอัดไปเลย ส่วนใหญ่จึงมีขนาดที่ใหญ่กว่า ซึ่งก็จะทำให้มีราคาและค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้นด้วย

เหมาะกับใคร

เหมาะกับการอยู่คนเดียวที่ต้องการพื้นที่ทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้มากขึ้น หรือถ้าห้องใหญ่หน่อยอาจจะอยู่เป็นคู่โดยที่ยังไม่ได้วางแผนจะมีลูกก็ไม่อึดอัดเนื่องจากมีการแบ่งพื้นที่เป็นสัดเป็นส่วน

เหมาะทั้งการซื้อลงทุนเพื่อขายต่อหรือปล่อยเช่า เนื่องจากเปห้องที่ได้รับความนิยมที่สุดทั้งชาวไทยและต่างชาติ

1 ห้องนอน พลัส - 1 bedroom plus

ลักษณะ

จะมีความคล้าย 2 ห้องนอน คือ มีห้องเพิ่มจาก 1 ห้องนอนมาอีกห้อง แต่ไม่ได้ออกแบบเจาะจงให้ใช้ได้แค่นอนเท่านั้น เหมือนเป็นห้องอเนกประสงค์ที่จะให้เป็นห้องอะไรก็ได้ ด้วยเหตุที่ว่าห้องที่เพิ่มมานั้นขนาดไม่ถึงเกณฑ์ที่จะเรียกว่าห้องนอนได้ตามกฎหมายนั่นเอง

จุดเด่น

สามารถใช้ห้องที่เพิ่มขึ้นมาได้อย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นห้องเก็บของ ห้องทำงาน ห้องที่เตรียมพร้อมไว้สำหรับขยายครอบครัว โดยเพิ่มราคาขึ้นมาไม่เยอะเนื่องจากขนาดห้องที่เพิ่มขึ้นมาเป็นห้องขนาดเล็ก

จุดด้อย

ห้องที่เพิ่มมามีขนาดไม่ใหญ่นักถ้าจะใช้เป็นห้องส่วนตัวสำหรับอีกคนอาจจะดูอึดอัดเลือกรูปแบบ 2 ห้องนอนอาจจะเหมาะกว่า

เหมาะกับใคร

คนที่ทำงานที่บ้าน (Work From Home) โดยต้องการพื้นที่เพิ่มหรือห้องทำงานแยกเพื่อความเป็นสัดส่วน

คู่รักที่เผื่อมีลูกน้อยในอนาคต

2 ห้องนอน - 2 bedrooms

ลักษณะ

ประกอบไปด้วยห้องนอน 2 ห้อง ส่วนห้องน้ำ บางครั้งก็ 1 ห้อง บางครั้งก็มากกว่านั้น ส่วนใหญ่ 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ มักจะมีขนาดที่ใหญ่กว่า โดยส่วนใหญ่แล้ว 2 ห้องนอนจะอยู่ในตำแหน่งห้องมุมของโครงการและจะได้รับวิว 2 ฝั่งด้วย

จุดเด่น

มีพื้นที่ใช้สอยมาก สามารถใช้อีกห้องนอนเป็นห้องรับรองแขกก็ได้ หรือไว้สำหรับขยายครอบครัวในอนาคตก็ดี หรือใช้ตามวัตถุประสงค์อื่นก็ได้เช่นกัน บางครั้งก็จะได้ห้องมุมหรือสิทธิจอดรถเพิ่มขึ้นด้วย

จุดด้อย

การมีพื้นที่เพิ่มขึ้นก็ย่อมแลกกับราคาที่สูงขึ้น และการดูแลรักษาที่มากขึ้น

เหมาะกับใคร

เหมาะสำหรับอยู่เป็นครอบครัว พ่อแม่ลูก หรือให้ญาติผู้ใหญ่มาพักด้วย

เหมาะสำหรับผู้ที่มีรถหลายคันแล้วต้องการที่จอดรถเพิ่ม

เหมาะสำหรับคนที่ชอบห้องมุมที่ให้ความเป็นส่วนตัวและได้รับวิว 2 ด้าน

ดูเพล็กซ์ - Duplex

ลักษณะ

เป็นการรวมห้อง 2 ยูนิต บน-ล่าง ไว้ด้วยกัน ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่บ้าน 2 ชั้น ทำให้มีความสูง 2 เท่าของห้องแบบปกติ โดยชั้น 2 จะถูกคิดพื้นที่รวมเข้าไปอยู่ในโฉนด และมีมักจะมีประตูเข้าได้จากทั้ง 2 ชั้น จึงเหมือนซื้อ 2 ยูนิต

จุดเด่น

ได้พื้นที่เต็มหรือเกือบเต็มทั้ง 2 ชั้น ให้อารมณ์ใกล้เคียงบ้าน 2 ชั้น บางที่อาจจะให้พื้นที่ด้านนอกมาด้วย และมีความเป็นส่วนตัวเพราะส่วนใหญ่จะนำห้องนอนไว้ชั้นบนหากมีแขกไปใครมาเราก็รับแขกอยู่แค่ชั้นล่างเท่านั้น

จุดด้อย

เพราะคิดโฉนด 2 ชั้นทำให้พื้นที่ที่คิดค่าส่วนกลางไม่ต่างกับซื้อ 2 ยูนิต แถมไม่แน่ที่จอดรถอาจจะได้แค่สิทธิเดียว ทำให้ทั้งราคาซื้อและค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นมา แต่กลับเสียพื้นที่บางส่วนให้กับบันไดทำให้พื้นที่รวมได้น้อยกว่าห้องแบบแนวราบที่พื้นที่เท่ากัน

เหมาะกับใคร

เหมาะสำหรับคนที่อยากอยู่คอนโดแต่ได้อารมณ์อยู่บ้านไปด้วย ทำให้ได้ทั้งทำเลที่ดีและเห็นวิวกว้างไกลจากการเป็นคอนโดและได้ชั้นบน-ล่างแบบบ้าน

ลอฟท์ - Loft

ลักษณะ

จะมีลักษณะคล้าย Duplex แต่จะคิดพื้นที่ตามโฉนดเพียงแค่ชั้นล่าง ส่วนชั้นบนจะมีลักษณะเป็นชั้นลอย ส่วนมากจะมีพื้นที่ไม่เต็มชั้น เพราะจะมีพื้นที่ให้ห้องรับแขกมีลักษณะเป็น double volume เพื่อทำให้ห้องดูโปร่ง

จุดเด่น

ให้ความรู้สึกโปร่งโล่งสบายโดยเฉพาะเวลามองจากวิวข้างนอกจากชั้นบนยิ่งถ้ากระจกเป็นกระจกที่เต็มความสูงด้วยแล้วจะให้ประสบการณ์การชมวิวที่ดีกว่าเดิมด้วย แถมเสียค่าส่วนกลางตามพื้นที่ชั้นล่างเท่านั้น

จุดด้อย

แน่นอนว่าเมื่อชั้นบน-ล่างเป็น double volume ย่อมมีปริมาตรมากขึ้น ทำให้การใช้ไฟก็มากขึ้นไปด้วย ต้องใช้เครื่องปรับอากาศที่กำลังสูงถึงจะให้ความเย็นได้อย่างทั่วถึง และการมีหน้าต่างทรงสูงถ้าเลือกทิศที่แดดแรงก็ยิ่งทำให้ห้องโดนแดดเต็ม ๆ

เหมาะกับใคร

คนที่ต้องการห้องที่อยู่แล้วรู้สึกปลอดโปร่งและสร้างประสบการณ์การชมวิวที่น่าประทับใจจากการที่ห้องเป็นกระจกทรงสูง

เพนท์เฮาส์ - Penthouse

ลักษณะ

ส่วนใหญ่จะเป็นห้องที่อยู่ชั้นบนสุดใหญ่สุดและแพงที่สุดในโครงการ บางห้องอาจจะเหมาพื้นที่ทั้งชั้นนั้นเลย ถามว่าในห้องมีอะไรบ้าง ต้องบอกว่าโครงการสามารถให้อะไรได้ก็แทบจะให้หมดทุกอย่างมารวมในเพนท์เฮ้าส์ยูนิตเดียวเลย ส่วนใหญ่จะขนาดเกิน 100 ตร.ม และมี 3 ห้องนอนขึ้นไป ให้ความรู้สึกเหมือนบ้านหรูแต่ทำเลใจกลางเมือง

จุดเด่น

มีพื้นที่ใช้สอยขนาดใหญ่ให้อารมณ์เสมือนอยู่บ้านหรู แต่ยังคงข้อดีของการเป็นคอนโดคือการอยู่ในทำเลที่ดีอีกทั้งการอยู่ชั้นบนสุดจะทำให้ได้รับวิวสวยที่สุดและบางห้องอาจจะสามารถรับวิวได้รอบเมือง แถมยังได้รับสิ่งอำนวยความสะดวกและความปลอดภัยสูงจากการเป็นคอนโดด้วย

จุดด้อย

มีค่าใช้จ่ายที่สูงแม้เทียบในโครงการเดียวกันก็มักจะมีราคาต่อตารางเมตรที่สูงกว่าด้วยเพราะมีเพียงห้องเดียวหรือเพียงไม่กี่ห้อง ถ้าหากคอนโดจัดวางส่วนกลางไว้บนดาดฟ้าแล้วออกแบบไม่ดีอาจจะมีน้ำรั่วน้ำซึมหรือการรบกวนจากการใช้ส่วนกลางของเพื่อนบ้านข้างบนได้ ถ้ากรณีแบบนี้คงไม่สมราคาแน่

เหมาะกับใคร

เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการที่อยู่อาศัยที่สมกับฐานะ ที่ยังคนต้องการที่จะอยู่คอนโด เนื่องจากทำเลใจกลางเมืองและการรับวิวรอบทิศทาง

เมื่อเราได้ทราบจุดเด่นจุดด้อยของห้องแต่ละแบบไปแล้ว เราก็น่าจะพอตอบตัวเองได้คร่าว ๆ แล้วว่าเราเหมาะกับห้องแบบไหน แต่ไม่ว่าห้องแบบไหน เชื่อว่าถ้าอยู่แล้วทำให้เรามีความสุขห้องนั้นก็ต้องเป็นห้องที่ดีแน่นอน